ไม่พลิกโผ!! “ฐิติพงศ์” ประกาศศักดาคว้าแชมป์ “พีทีที บีอาร์ไอซี” 2 สมัยซ้อน
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2018 ดวลความเร็วสนามสุดท้ายของปีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยนับเป็นการตัดสินแชมป์ประจำปีของทุกรุ่น รวมถึงการลุ้นคว้าสิทธิ์ไวลด์การ์ดของรายการ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ และ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ในปี 2019
ไฮไลต์ของสนามสุดท้ายอยู่ที่การลุ้นแชมป์ประจำปีในรุ่นใหญ่ที่สุดของประเทศไทยอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซี.ซี. เอสบี1 ซึ่ง “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร แชมป์ 2 สมัยล่าสุดจาก คอร์ คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ที่รั้งจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพเหนือทีมเมทอย่าง “ซีเค” ชัยวิชิต นิสกุล อันดับ 2 อยู่ 9 คะแนน
โดยเกมในรุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซี.ซี. เอสบี1 ดวลความเร็วทั้งสิ้น 12 รอบสนาม ตำแหน่งโพลโพซิชั่นเป็นของ ฐิติพงศ์ ขนาบข้างด้วยคู่แข่งที่ลุ้นแชมป์อีกคนอย่าง “ซุป” อนุชา นาคเจริญศรี จาก ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ เรซซิ่ง ทีม ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ ชัยวิชิต
ออกสตาร์ทเรซนี้ด้วยการขยับขึ้นนำของ ฐิติพงศ์ ทว่าเพียงรอบที่ 3 อนุชา ก็สามารถขยับขึ้นเป็นผู้นำได้บ้าง ก่อนที่ ฐิติพงศ์ จะอาศัยจังหวะที่ดีกว่า แซงกลับคืนได้สำเร็จ จากนั้นอดีตนักบิดโมโตทูที่เริ่มจับจังหวะที่ลงตัวได้ เริ่มฉีกหนีคู่แข่งออกไปเรื่อย ก่อนบิดเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 19 นาที 17.256 วินาที เหนือ อนุชา อันดับ 2 ถึง 5.165 วินาที ส่วน ชัยวิชิต จบเรซในอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ 8.121 วินาที
จบการแข่งขันสนามสุดท้ายของปี ฐิติพงศ์ ที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมตลอดทั้งปีผงาดคว้าแชมป์ประจำปีในรุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซี.ซี. เอสบี1 ไปครองเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน เก็บไปได้ทั้งสิ้น 86 คะแนน จากการคว้าชัยชนะ 3 เรซ ในปีนี้ ส่วนรองแชมป์เป็นของทีมเมทอย่าง ชัยวิชิต มี 68 คะแนน ตามด้วย จักรกฤษณ์ แสวงสวาท จาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด เรซซิ่ง ทีม มี 61 คะแนน ขณะที่ อนุชา จบฤดูกาล 2018 ด้วยอันดับ 4 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ
ด้านการลุ้นแชมป์ในรุ่น ซูเปอร์สต็อก 1,000 ซี.ซี. เอสที1 ไม่มีอะไรพลิกผันเมื่อ “ตี” อนุภาพ ซามูล จ่าฝูงจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด เรซซิ่ง ทีม ที่ได้ออกสตาร์ทจากโพลออกนำม้วนเดียวจบคว้าแชมป์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้ง 4 สนามติดต่อกัน ด้วยเวลา 19 นาที 33.363 วินาที ตามด้วย เบนจามิน ไท ฟอร์ตต์ จาก นุ รังสิต ท็อปวัน ดร.ไบค์ เรซซิ่ง ทีม ในอันดับ 2 ตามหลัง 5.786 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ประวัติ ญาณวุฒิ จาก ยามาฮ่า เดวิล อีเกิ้ล เพาเวอร์ ออยล์ อาร์ซีที ตามหลังแชมป์ 6.290 วินาที โดยจากฟอร์มไร้เทียมทานของ อนุภาพ ส่งผลให้ผงาดคว้าแชมป์ประจำปีได้อย่างยิ่งใหญ่
ส่วนการแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. เอสเอส1 ปรากฏว่า พีรพงศ์ บุญเลิศ เจ้าของโพลจาก ยามาฮ่า เควายบี ไออาร์ซี ดี.ไอ.ดี. โมตุล น้ำบาน โก๋ ท่ามะกา ออกนำแบบม้วนเดียวจบเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกทว่ากลับโดนลงโทษดิสควอลิฟาย ส่งผลให้แชมป์เรซนี้ตกเป็นของ คณาทัต ใจมั่น จาก ยามาฮ่า ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี พิเรลลี เคเอ็นบี เออห์ลิน วาชิ เอเรซเซอร์ ด้วยเวลา 20 นาที 15.196 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง จาก ทีเอชอาร์ซี ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง คลับ 3.081 วินาที ตามด้วย สิทธิพร ศรีมูลตรี จาก ยามาฮ่า เดวิล อาร์ซีที ตามหลัง 22.406 วินาที โดยแขมป์ประจำปีตกเป็นของ สิทธิศักดิ์ ที่ผงาดครองบัลลังก์ครั้งแรกในรายการนี้ได้สำเร็จ
ขณะที่เกมในรุ่น โอเพ่น 400 ซี.ซี. ดิวิชั่น 1 ที่ต้องมาตัดสินแชมป์กันในสนามสุดท้ายก็เข้มข้นไม่แพ้รุ่นอื่นๆ โดยแชมป์ตกเป็นของ วรพงษ์ มาลาหวล จาก ยามาฮ่า ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี พิเรลลี เคเอ็นบี เออห์ลิน วาชิ เอเรซเซอร์ ที่เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 12 นาที 34.352 วินาที เหนือ พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง จากยามาฮ่า ทีดีอาร์ ดี.ไอ.ดี. รูม เอเรซเซอร์ ป็อป ตลาดน้อย 3.189 วินาที ตามด้วย รัฐพงษ์ บุญเลิศ จาก ยามาฮ่า เควายบี ไออาร์ซี ดี.ไอ.ดี. โมตุล น้ำบาน โก๋ ท่ามะกา ตามหลังแชมป์ 3.423 วินาที โดยแชมป์ประจำปีตกเป็นของ วรพงษ์ ที่คว้าแชมป์สมัยแรกให้ตนเองได้สำเร็จเก็บไปทั้งสิ้น 81 คะแนน เท่ากันกับ พีระพงษ์ ทว่าฝ่ายแรกทำผลงานแบบ เฮด ทู เฮด ได้เหนือกว่า
สำหรับนักบิดที่ได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ดใน ศึก เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ ที่จะดวลความเร็วที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในปี 2019 ได้แก่ ฐิติพงศ์ เจ้าของแชมป์ประจำปีในรุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซี.ซี. เอสบี1 และ อนุภาพ แชมป์ประจำปีในรุ่น ซูเปอร์สต็อก 1,000 ซี