“ไอ้เด็กระเบิด” มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 4 สมัยชาวสเปน จาก เรปโซล ฮอนด้า เผยไม่รู้สึกถึงความได้เปรียบในการลุ้นแชมป์โลกจากการยกเลิกเรซ บริติ กรังด์ปรีซ์ ชี้นี่คือเหตุผลของความปลอดภัยจากแทร็กที่อันตราย

ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต ปรับเปลี่ยนรื้อพื้นแทร็กเพื่อปูผิวยางมะตอยใหม่ทั้งหมดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1996 ในช่วงต้นปี 2018 แต่ก็ได้เกิดปัญหามากมายในรอบทดสอบสนาม ทั้งเรื่องของผิวแทร็กที่มีน้ำขัง จนทำให้นักบิดหลายคนประสบอุบัติเหตุ หนึ่งในนั้นก็คือ ติโต้ ราบัต นักบิดชาวสเปน ที่ขาหักจากการชนกับ ฟรานโก้ มอร์บิเดลลี จนต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนเพื่อผ่าตัด

ส่วนในแข่งขันได้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ ดอร์น่า สปอร์ต ประกาศยกเลิกการแข่งขัน รายการ บริติช กรังด์ปรีซ์ หลังเลื่อนมากว่า 4-5 ชั่วโมง จากสภาพอากาศที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยผิวแทร็กที่ปูใหม่ของ ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต มีน้ำขังเกินกว่าจะดวลความเร็วภายใต้ความปลอดภัยได้

โดยในเรื่องนี้ มาร์เกซ ที่หลายคิดว่า มีโอกาสที่จะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 มากยิ่งขึ้น เพราะการแข่งขันหายไป 1 สนาม กล่าวว่า  เขาไม่ได้ประโยชน์ใดๆ เลยจากการยกเลิกเรซนี้ มันไม่ดีเลยในสภาพอากาศเช่นนี้คุณสามารถคว้าแต้มได้มากมาย หรืออาจเสียคะแนนมากมายได้เช่นกัน นี่คือเพียงบางสิ่งที่เขาไม่ได้นึกถึงเลยในวันนี้ เพราะมันเป็นวันที่ยาวนานมาก ถ้านับตั้งแต่ลงวอร์มอัพก็กว่า 9 ชั่วโมง ที่จดจ่ออยู่กับสนามและสภาพอากาศใน ซิลเวอร์สโตน การยกเลิกเรซเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก เพราะทุกคนต้องเจอเหตุผลที่ปฏิเสธได้ยากกับสภาพอากาศเช่นนี้ ทุกคนต่างก็นั่งลงและคุยกันในที่ประชุมด้านความปลอดภัย นักบิดทุกคนตัดสินใจไม่แข่งขัน เพราะสภาพของแทร็กไม่พร้อมจริงๆ มันอันตรายมาก

ปัจจุบัน มาร์เกซ ยังนำเป็นจ่าฝูง หลังจากแข่งขันผ่านไป 12 สนาม โดยมีแต้มทิ้งห่าง วาเลนติโน่ รอสซี คู่แข่งชาวอิตาเลียนจาก โมบิสตาร์ ยามาฮ่า ถึง 59 คะแนน ขณะที่เหลือการแข่งขันทั้งสิ้น 7 สนามเท่านั้น

ขอบคุณภาพจาก motogp.com