ลองของ!! “ฮอนด้า” ส่ง “นครินทร์-สมเกียรติ” ลุยโมโตทรีที่บุรีรัมย์
ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งรู้จักกันทั่วโลกในชื่อของ “โมโตจีพี” เตรียมระเบิดความมันส์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในเมืองไทย ระหว่างวันที่ 5-7 ต.ค. ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ภายใต้ชื่อรายการ “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018”
โดยล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ค่ายผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในเมืองไทย จัดงานแถลงข่าวแนะนำแนวคิด “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทู โมโตจีพี (“Race To The Dream” Honda Thailand to MotoGP) ซึ่งถือเป็นแนวทางหลักด้านมอเตอร์สปอร์ตของ ฮอนด้า
มร.โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า โมโตจีพี ขึ้นชื่อว่าเป็นกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่ได้รับความนิยมอย่างสูงของโลก และมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นตลอดเวลา เพราะนี่คือการแข่งขันในการเป็นแชมป์โลกที่มีเทคโนโลยีในรถแข่งจักรยานยนต์สูงที่สุด พร้อมกับนักบิดระดับหัวแถวของโลกมากมาย “ฮอนด้า” เป็นหนึ่งในทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน โมโตจีพี นับตั้งแต่ก่อตั้งรายการนี้
ฮอนด้า คว้าชัยชนะจากการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ได้ถึง 750 ครั้ง นับเป็นยการยืนยันความสำเร็จได้อย่างชัดเจน ด้วยการสร้างชัยชนะเกมส์การแข่งขันแต่ละสนามทั่วโลก และชัยชนะที่เหนือกว่านั้นก็คือ ศักยภาพของตัวแข่งที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลา โดยล่าสุด มาร์ค มาเกซ โดย Honda RC213V แชมป์โลก 4 สมัยชวสเปนกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยอดเยี่ยมในการลุ้นคว้าแชมป์พรีเมียร์คลาสสมัยที่ 5 ในฤดูกาล 2018
โดยในปีนี้ประเทศไทยจะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โมโตจีพี ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยถูกบรรจะเป็นสนามที่ 15 ของปี ดวลความเร็วในวันที่ 5-7 ต.ค. ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีโอกาสสูงที่ มาร์เกซ ซึ่งโกยแต้มนำแห่งคู่แข่งออกไปอย่างต่อเนื่องบนตารางแชมเปี้ยนชิพ จะสามารถคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 ได้ในประเทศไทย
ทั้งนี้ ในศึกโมโตจีพีครั้งแรกบนผืนแผ่นดินไทยจะมีนักบิดไทยลงแข่งขันในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งเป็นเวทีที่รวมเอายอดนักบิดดาวรุ่งจากทั่วโลกมาไว้ในเรซเดียวกันมากที่สุด นำโดย “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ที่ลงดวลความเร็วแบบเต็มฤดูกาลกับสังกัด ฮอนด้า ทีม เอเชีย เป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน และนี่คือการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกในโฮมเรซครั้งแรกของนักบิดไทยรายนี้
รวมถึง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจาอ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในรายการ เอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ที่ฉายแววยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่สองกับการแข่งขันในยุโรป โดยจะได้รับสิทธิ์ไวด์การ์ดลงดวลความเร็วในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ เช่นกัน
มร.โยอิจิ กล่าวว่า เปิดเผยว่า โมโตทรี คือบันไดระดับโลกที่มีนักแข่งไทยอย่าง “ชิพ” นครินทร์ ที่ขึ้นมาสู่การเป็นนักแข่งชิงแชมป์โลกแบบเต็มฤดูกาล ก่อนหน้านี้เราได้เชียร์ “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ในรุ่น จีพี250 และโมโต 2 แต่น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้แข่งขันต่อหน้าแฟนๆ ชาวไทยในบ้านเกิด ซึ่งในปีนี้ “ชิพ” นครินทร์ คือนักบิดฮีโร่ของคนไทยที่จะลงทำหน้าที่ล่าความสำเร็จในวันที่ 5-7 ต.ค.นี้ ในโมโตจีพี ครั้งแรกของเมืองไทย รวมถึง “ก้อง” สมเกียรติ ที่ได้สิทธิ์ไวด์การ์ดลงแข่งขันในรุ่นนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีนักบิดอีก 3 คนของเราที่จะลงแข่งในศึก เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนานักบิดของ ฮอนด้า อย่างมาก ต้องขอกำลังจากแฟนๆ ชาวไทยให้ส่งเสียงเชียร์นักแข่งไทยทุกคนให้คว้าแชมป์ในบ้านเกิดให้ได้”
ด้าน นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม คือโครงการสำคัญของเราในการพานักแข่งไทยสู่โมโต จีพี ซึ่งถือเป็นการแข่งขันจักรยายนต์ทางเรียบรุ่นและรายการที่ดีที่สุดในโลกให้ได้ในปี 2025 โดยถูกวางโร้ดแม็ปเอาไว้อย่างชัดเจนจากโครงสร้างที่ได้มาตรฐานในทุกขั้นตอน ทุกระดับ นับตั้งแต่ ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์ ของนักแข่งระดับวัยเยาว์ ก่อนก้าวสู่ ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนท์ คัพ และพัฒนาต่อไปที่ เอเชียร์ ทาเลนท์ คัพ และผลักดันสู่ ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ ซึ่งมีปลายทางที่การแข่งขันเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ในรุ่น โมโตทรี, โมโตทู และจุดสูงสุดคือ โมโตจีพี นั่นเอง
นอกจากนี้ ในสุดสัปดาห์เดียวกันนี้จะมี 3 นักบิดไทยลงแข่งขันในรายการ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ซึ่งถุกบรรจุเป็นซัพพอร์ตเรซให้กับ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ นำโดย “ไอซ์” นิติพงษ์ แสงสว่าง, “ก๊อง” ธัชกร บัวศรี และ “แชมป์” กอบชัย แซ่หลิว ลงขับเคี่ยวกับดาวรุ่งแถวหน้าของทวีปเอเชียเพื่อสร้างชื่อให้กับประเทศไทย
สำหรับไฮไลต์สำคัญของ ฮอนด้า กับการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ โมโตจีพี ครั้งแรกในประเทศไทย มร.โยอิจิ กล่าวว่า ในวันที่ 5 – 7 ต.ค. นี้ พลังแห่งความฝันที่ ฮอนด้า ทีม พร้อมกองเชียร์ชาวไทย จะร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อเดินเคียงข้างนักแข่งไทยให้เดินไปสู่ฝันให้เป็นผลสำเร็จ แสดงให้ทั่วโลกได้เห็นถึงศักยภาพแห่งการพัฒนานักแข่งและรถแข่งของ ฮอนด้า ให้ทั่วโลกได้เห็นถึงพลังแห่งการสนับสนุนนักแข่งเจ้าบ้านของกองเชียร์ชาวไทย อย่าพลาดที่จะเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ครั้งนี้ มาแสดงพลังที่จะขับเคลื่อนฝันให้เป็นจริง