ประเทศไทยผงาดเจ้าภาพอีกครั้ง กับศึกซูเปอร์คาร์สุดหรู “GT World Challenge Asia 2025” หนึ่งในซีรีส์การแข่งขันรายการยักษ์ของโลกที่จัดขึ้นใน 4 ทวีป ได้แก่ ทวีปอเมริกา,เอเชีย,ออสเตรเลีย และยุโรป ฝ่ายจัดเผยความสำคัญที่ “สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์“ ได้รับเลือกบนปฏิทินการแข่งขัน กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวผ่านกีฬาระดับพรีเมียม ทั้งยังสนับสนุนการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมมอเตอร์สปอร์ตและยานยนต์ พร้อมกระหึ่มแข่งขันซัพพอร์ตเรซ รายการ Honda One Make Race 2025 โดยบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เพิ่มประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตเต็มระบบให้กับคอความเร็วอย่างแท้จริง

วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ที่ ราชพฤกษ์คลับ กรุงเทพฯ : บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จำกัด ผู้บริหารสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โปรโมเตอร์มอเตอร์สปอร์ตเบอร์หนึ่งของไทย แถลงข่าวการจัดการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ “GT World Challenge Asia 2025” (จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย ) สนามที่ 3 ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2568 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ภายในงานยังได้มีการแถลงข่าวจัดการแข่งขันซัพพอร์ตเรซ รายการ Honda One Make Race 2025 โดยบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมระเบิดศึกอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงสุดสัปดาห์เดียวกัน

นายเบนจามิน ฟรานาสโซวิซิ ผู้จัดการทั่วไป จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย พาวเวอร์ บาย เอ ดับเบิ้ลยู เอส เปิดเผยว่า GT World เป็นซีรีส์ซูเปอร์คาร์ทางเรียบระดับโลกที่มีชื่อเสียงและเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดรายการหนึ่ง ซึ่งฤดูกาล 2025 จะเป็นฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับ GT World Challenge ที่ขับเคลื่อนโดย AWS โดยมีรถ GT3 มากกว่า 130 คันที่พร้อมลงแข่งขันในอเมริกา เอเชีย ออสเตรเลีย และยุโรป”

“ส่วน GT World Challenge Asia ฤดูกาล 2025นี้ ถือเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดที่สุด ด้วยรถแข่งซูเปอร์คาร์ GT3 มากถึง 33 คัน จาก 8 ผู้ผลิตชั้นนำ แฟนความเร็วจะได้พบกับรถซูเปอร์คาร์ชั้นนำ อาทิ Mercedes-AMG, Ferrari 296, Porsche 911, Porsche 992, Lamborghini Huracan, Audi R8 LMS, BMW M4, Chevrolet Corvette Z06, Nissan GT-R NISMO ฯลฯ และยังเป็นการรวมตัวของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ ทีมแข่งชั้นนำ นักแข่งฝีมือดีจากทั่วโลกหลากหลายทวีปมากกว่า 60 คน สนามแข่งขันครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น มาเลเซีย จีน และไทยก็เป็นหนึ่งในสนามไฮไลต์ของฤดูกาล ด้วยมาตรฐานของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล”

นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า ขณะนี้สนามมีความพร้อม 100% ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุดจาก FIA ที่สามารถจัดการแข่งขันรถสูตร 1 หรือ Formula 1 ได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านความปลอดภัย,เจ้าหน้าที่ประจำจุดต่างๆ, ระบบควบคุมการแข่งขัน, อุปกรณ์สนับสนุน ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักแข่ง-ทีมงาน, สื่อมวลชน และแฟนๆ ที่จะเดินทางมาชมที่สนาม ไม่ต่างจากการเป็นเจ้าภาพ MotoGP หรือการแข่งขันระดับโลกอื่นๆ เพื่อให้แฟนๆได้สัมผัสกับความเร็ว เสียงเครื่องยนต์ของรถ GT3 และสมรรถนะของรถแข่งเหล่านี้อย่างใกล้ชิดบนแทร็กระดับเวิลด์คลาส รวมถึงกิจกรรม PIT Walk พันล้านที่จะได้สัมผัสรถซูเปอร์คาร์ในฝันแบบใกล้ชิด เหล่านี้ถือเป็นประสบการณ์ที่พิเศษ และหาได้ยากในประเทศไทย

นายณรัชฏ์ วัชรเพชร ผู้จัดการอาวุโส ผลิตภัณฑ์น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง กล่าวว่า นอกจากศึกสองล้อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่าง MotoGP แล้ว GT World ก็ถือเป็น International series ที่ยิ่งใหญ่ในฝั่งสี่ล้อเช่นกัน น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง เล็งเห็นว่ามอเตอร์สปอร์ตคือแพลตฟอร์มที่ทรงพลัง และการที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพรายการนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่เป็นโอกาสในการแสดงศักยภาพของประเทศ แต่ยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในระดับโลก สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชน กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวผ่านกีฬาระดับพรีเมียม ทั้งยังสนับสนุนการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมมอเตอร์สปอร์ตและยานยนต์ อีกด้วย

“น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง”ได้เตรียมกิจกรรมพิเศษไว้ให้แฟนมอเตอร์สปอร์ตได้ลุ้นรางวัลใหญ่ในแคมเปญ “Chang’s Friend Pass” แจกใหญ่และจัดหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ด้วยการแจกบัตร VIP โค้ง 12 สำหรับชม MotoGP 2026 พร้อม Paddock Pass + Official Guide Tour และบัตร PIT Lane Walk 15 รางวัล รางวัลละ 2 ใบ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท สำหรับผู้ซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน “GT World Challenge Asia 2025”ถ่ายรูปคู่กับน้ำแร่ธรรมชาติตราช้างและบัตรเข้าชมการแข่งขัน โพสต์ลงเฟซบุ๊คของตัวเอง เขียนบรรยายความรู้สึก พร้อมติด #Chang’sFriendPass และ Tag ไปยังเพจ Chang Circuit Buriram โดยเปิดเป็นสาธารณะ พร้อมทั้ง Capture ภาพที่โพสต์ลง เฟสบุ๊คส่วนตัวส่งมาที่ Inbox เพจ Chang Circuit Buriram

ภายในงานยังได้มีการแถลงการจัดการแข่งขันซัพพอร์ตเรซ รายการ “Honda One Make Race 2025” โดยบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมระเบิดศึกอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงสุดสัปดาห์เดียวกัน โดยมีนักแข่งมากฝีมือร่วมพูดคุยบนเวที นำโดย “วี”ธนาศิวณัฐ พงสินนัฐอาชัญ แชมป์ประจำปี “ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก วันเมคเรซ 2024″,เต้ย” อัฐพล แก้วอาษา และ“กอล์ฟ” ประพจน์ ชื่นวิจิตร

นางศิริพร ศรีสุข ผู้จัดการส่วนงานการตลาดและการสื่อสารแบรนด์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฮอนด้าได้ร่วมเป็น Circuit Partner อย่างยาวนาน ปีนี้ถือเป็นปีที่พิเศษ เป็นครั้งแรกที่เราได้ร่วมเติมเต็มประสบการณ์ความสนุกเร้าใจให้กับแฟน GT World ได้ร่วมเชียร์นักแข่งไทยในศึกรถยนต์ทางเรียบ “Honda One Make Race 2025” สนามแรกของปี นอกจากนี้ ยังมีการจัด “Exclusive Trip” ทริปสุดพิเศษที่มอบให้ลูกค้าฮอนด้า เข้าร่วมชมการแข่งขันทั้ง 2 รายการ และร่วมเรียนรู้เทคนิคการขับขี่ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติจากผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ Driving Clinic รวมทั้ง Track Experience ขับขี่บนสนามแข่งระดับโลกแบบเอ็กซ์คลูซีฟอีกด้วย

ทั้งนี้ GT World Challenge Asia 2025 ทำการแข่งขันทั้งสิ้น 6 สนาม ได้แก่ สนาม 1 ระหว่าง วันที่ 10-13 เม.ย. ที่ สนามเซปัง ประเทศมาเลเซีย, สนาม 2 วันที่ 9-11 พ.ค. สนามมันดาลิกา ประเทศอินโดนีเซีย, สนามที่ 3 วันที่ 30 พ.ค.-1 มิ.ย. ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ จากนั้นอีก 2 สนามดวลกันในประเทศญี่ปุ่น โดยสนาม 4 วันที่ 11-13 มิ.ย. ที่ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์, สนาม 5 วันที่ 29-31 ส.ค. ที่โอคายาม่า, สนาม 6 วันที่ 17-19 ต.ค.ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน

จำหน่ายบัตรแล้ววันนี้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขา หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ allticket.com บัตร VIP 1 วัน ราคา 2,000 บาท 2 วัน ราคา 3,000 บาท และ บัตร GRANDSTAND 1 วัน ราคา 200 บาท 2 วัน ราคา 300 บาท

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเพจ Chang Circuit Buriram / GT World Challenge Asia

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *