ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2018 มีคิวเดินทางมาดวลความเร็วครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยถูกบรรจุเป็นสนามที่ 15 ภายใต้ชื่อรายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 5-7 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

กระแสความตื่นตัวของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยคึกคักสุดขีด หลังจากที่ได้รับการยืนยันว่าประเทศไทยจะได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โมโตจีพี ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ขณะที่แฟนความเร็วจองตั๋วเข้าชมเต็มเกือบทุกจุด นับตั้งแต่เปิดจำหน่ายไม่ถึง 1 เดือน

นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า “สิ่งสำคัญที่อยากให้แฟนๆ ชาวไทยทุกคนได้รับคือความสุขของการสัมผัส โมโตจีพี ครั้งแรก นี่คือความตั้งใจของรัฐบาลไทยและภาคเอกชนทุกๆ ส่วนในการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้”

“เราเชื่อว่าระหว่างสัปดาห์ของการแข่งขัน พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ประเทศไทยไม่เฉพาะใน ตัวจังหวัดบุรีรัมย์ จะมีความคึกคักอย่างมาก และมีเม็ดเงินหมุนเวียนหลายพันล้านทั่วประเทศ”

ขณะเดียวกัน กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้างฯ กล่าวต่อว่า “เราอยากเห็นคนไทยทุกคนร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี กับโมโตจีพีครั้งแรกในประเทศไทย ใครที่มีบัตรในมือแล้วจะได้จารึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญไปพร้อมๆ กัน”

“นี่คืองานที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในจังหวัดบุรีรัมย์ และใหญ่ที่สุดที่เคยมีในเมืองไทย คนที่มานับแสน ความต้องการแสนอย่าง ถนนทุกสายจะมุ่งสู่บุรีรัมย์ งานครั้งแรกอาจจะมีปัญหาขลุกขลักบ้าง ไม่สะดวกสบายบ้าง แต่ก็ให้ถือว่าเป็นประสบการณ์ร่วมกันที่จะทำให้โมโตจีพีครั้งต่อไปในประเทศไทยยิ่งใหญ่กว่าเดิม”

นอกจากนี้ นายตนัยศิริ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนโมโตจีพีตัวยง และเดินทางไปชมการแข่งขันมาแล้วหลายสนามทั่วโลก ได้แนะนำแฟนๆ ความเร็วในการเดินทางเข้าชมการแข่งขันว่า “ปกติแล้วการเดินไกลๆ จากทางเข้าสนาม หรือจุดจอดรถถือเป็นเรื่องปกติของการเข้าชมกีฬามอเตอร์สปอร์ตระดับโลกใหญ่ๆ เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น ฟอร์มูล่าวัน หรือ โมโตจีพี”

“แม้ทุกฝ่ายจะเตรียมความพร้อมอย่างหนัก ทุกหน่วยงาน ทุกวัน แต่ต้องเตรียมใจไว้เรื่องการจราจร อาจมีเดินไกลบ้าง ห้องน้ำรอคิวนานหน่อย ผู้ชมควรศึกษารายละเอียด เช่น แผนผังการจัดงาน, จุดจอดรถรับส่งต่างๆ, การแต่งกายมาร่วมงาน รองเท้าสวมใส่สบาย, แบตตารี่มือถือ พาเวอร์แบงค์ต้องมีพร้อม, ร่ม, ยาประจำตัว เป็นต้น”

“สำหรับสิ่งสำคัญที่อย่างย้ำเตือนคือ วินัยในการขับขี่ของเหล่าไบค์เกอร์ที่จะไปร่วมงาน หากเกิดอุบัติเหตุอาจจะกลายเป็นภาพลบของวงการมอเตอร์สปอร์ต และอยากรณรงค์ให้เห็นถึงความปลอดภัยเป็นหลัก”

ทั้งนี้ นายตนัยศิริ ได้ทิ้งท้ายว่า “คนไทยทุกคนขึ้นชื่อว่ามีความน่ารักในการต้อนรับชาวต่างชาติมายาวนาน ความมีน้ำใจต่อคนมาร่วมงานด้วยกันและเอื้ออาทรต่อชาวต่างชาติ จะเป็นสิ่งยืนยันความน่าอยู่ของเมืองไทยไปในตัว ผมเชื่อมั่นในพลังของคนบุรีรัมย์และพลังของคนไทยในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ”