“พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์” กระหึ่ม! “มาร์เกซ” แซง “กวาร์ตาราโร” รอบสุดท้ายผงาดแชมป์โลกสมัย 8 อย่างยิ่งใหญ่
ประเทศไทย เสิร์ฟเกมโมโตจีพีสุดมันส์ระดับ 5 ดาว สู่สายตาแฟนความเร็วทั่วโลกในรายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 ขณะ มาร์ค มาร์เกซ ยอดนักบิดสแปนิช จาก เรปโซล ฮอนด้า ไล่แซง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร รุกกี้ชาวฝรั่งเศสจาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ก่อนบิดเข้าป้ายเป็นคันแรก คว้าแชมป์ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์อย่างสุดมันส์ เถลิงบัลลังก์แชมป์โลกสมัยที่ 8 อย่างยิ่งใหญ่บนแผ่นดินไทย ทางด้าน “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยวัย 20 ปี จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย สร้างผลงานกระหึ่มโฮมเรซด้วยการคว้าอันดับ 9 ในศึก โมโตทู เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี สนาม 15 รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร โดยในรุ่นใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง โมโตจีพี ชิงชัยกันทั้งสิ้น 26 รอบสนาม
โดยการแข่งขันสนามนี้ ถูกถ่ายทอดสดไปทั่วโลกกว่า 210 ประเทศ ผ่านสายตาแฟนความเร็วทั่วโลกกว่า 1,000 ล้านคู่ ให้ได้ชมความยิ่งใหญ่ของ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ที่มีการแข่งขันสุดเข้มข้น รวมทั้งเป็นการแสดงถึงความสำเร็จของประเทศไทย ภายใต้ความร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน
ตำแหน่งโพลในเรซนี้เป็นของ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสจาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ขนาบข้างด้วย มาเวริค บีญาเลส นักบิดสแปนิชจาก มอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี และ มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกชาวสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า ในกริดที่ 3 ซึ่งในเรซนี้ มาร์เกซ ต้องการเก็บคะแนนเหนือ อันเดรีย โดวิซิโอโซ นักบิดอิตาเลียนจาก มิสชั่น วินนาว ดูคาติ เพียง 2 คะแนน เขาก็จะขึ้นครองตำแหน่งแชมป์โลกพรีเมียร์คลาสสมัยที่ 6 ทันที
จังหวะออกสตาร์ทเป็น กวาร์ตาราโร ที่ทะยานขึ้นเป็นผู้นำได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ มาร์เกซ ขยับแซง บีญาเลส ขึ้นมารั้งอันดับ 2 ได้สำเร็จ ขณะที่ โดวิซิโอโซ นักบิดคนเดียวที่จะหยุดการฉลองแชมป์โลกของ มาร์เกซ ได้นั้น ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 4
หลังผ่านครึ่งทางการแข่งขัน มาร์เกซ ไล่บด กวาร์ตาราโร เพื่อชิงตำแหน่งหัวแถวอย่างหนัก ขณะที่ในกลุ่มกลาง บีญาเลส เป็นอันดับ 3 ตามด้วย โดวิซิโอโซ, อเล็กซ์ รินส์ นักบิดสแปนิชจาก ทีม ซูซูกิ เอ็คสตาร์ ในอันดับ 4 และ 5 ส่วนอันดับ 6 เป็นของ ฟรานโก มอร์บิเดลลี นักบิดอิตาเลียนจ่าก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ตามด้วย โจอัน เมียร์ ดาวรุ่งสแปนิชจาก ทีม ซูซูกิ เอ็คสตาร์ และ วาเลนติโน รอสซี่ จอมเก๋าอิตาเลียนจาก มอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี
จบการแข่งขัน 26 รอบสนาม ของ ศึก พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ แชมป์ตกเป็นของ มาร์เกซ ที่ไล่แซง กวาตาร์ราโร ได้ในรอบสุดท้าย เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 39 นาที 36.223 วินาที ผงาดคว้าแชมป์ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน เฉือน กวาร์ตาราโร เพียง 0.171 วินาที ขณะที่อันดับ 3 ตกเป็นของ บีญาเลส ตามหลังแชมป์ 1.380 วินาที
การคว้าแชมป์ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ส่งผลให้ มาร์เกซ ขึ้นเถลิงแชมป์โลกพรีเมียร์คลาสเป็นสมัยที่ 6 ของตนเอง และเป็นการคว้าแชมป์โลกรวมทุกคลาสเป็นสมัยที่ 8 อย่างยิ่งใหญ่
ขณะที่นักบิดไทยหนึ่งเดียวในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก อย่าง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา เจ้าของหมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ก็สร้างผลงานกระหึ่มโฮมเรซด้วยการคว้าอันดับ 9 ในศึก โมโตทู หลังจากไล่แซงคู่แข่งได้กว่า 12 คัน จากเรซในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
สำหรับประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ กับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโมโตจีพี รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2 ปีติดต่อกัน และยังคงมีแฟนความเร็วเรือนแสนเข้าชมการแข่งขันที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เช่นเคย
ทั้งนี้ การแข่งขัน โมโตจีพี แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนามถัดไป จะมีขึ้นในวันที่ 16-18 ตุลาคมนี้ ที่ ทวินริง โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น ในรายการ เจแปนีส กรังด์ปรีซ์